HOMEPAGE
เมนู “ขนมไทย” ที่หาทานได้ยาก
๑. ขนมบุหลันดั้นเมฆ

น่าทานมากๆ

สีอัญชัญทำให้ขนมยิ่งดูน่าทาน 
บุหลันดั้นเมฆ

บุหลันดั้นเมฆ
“บุหลันดั้นเมฆ” เป็นขนมที่มีที่มาจากในวัง ได้รับแรงบันดาลใจมาจากเพลง “บุหลันลอยเลื่อน” อันเป็นเพลงพระราชนิพนธ์ในรัชกาลที่ ๒ รูปลักษณ์จะคล้ายคลึงกับขนมน้ำดอกไม้ หากแต่สีสันจะเลียนแบบดวงจันทร์ที่ลองอยู่ท่าม กลางท้องฟ้า ตามเพลงพระราชนิพนธ์ ส่วนประกอบด้านนอกจะประกอบไปด้วยแป้งข้าวเจ้า แป้งมัน น้ำตาลทราย และได้สีจากน้ำดอกอัญชัน ในส่วนไส้ตรงกลางจะใช้ไข่ กะทิ น้ำตาลมะพร้าวเป็นส่วนประกอบ สามารถให้เป็นของฝากผู้ใหญ่ หรือคนในครอบครัว นับว่าเป็นเมนูขนมไทยแสนประณีตอีกหนึ่งชนิด
—————————————-




๒. ขนมชั้น

ขนมชั้นรูปดอกกุหลาบ สีสวยน่าทาน 
ขนมชั้นรูปดอกกุหลาบสีแดง เหมือนกุหลาบจริงเลย

ขนมชั้นรูปม้่าน้ำ สีสันสะดุดตาน่าทาน 
ขนมชั้นรูปเปลือกหอย และ ดาว 
ขนมชั้นรูปปลาโลมา
“ขนมชั้น” มีรสชาติหวานละมุนลิ้น และมีกลิ่นหอมใบเตย จัดเป็นขนมมงคลที่นิยมใช้ตามงานมงคลต่างๆ คนโบราณมีความเชื่อว่า หากสามารถทำได้ถึง ๙ ชั้น จะทำให้มีสิริมงคลก้าวหน้าและเจริญรุ่งเรืองในตำแหน่งหน้าที่ของเจ้าภาพผู้จัดงาน หรืองานมงคลสมรสบ่าวสาว ปัจจุบันมีการนำมาดัดแปลงประดิษฐ์เป็นช่อดอกกุหลาบ หรือช่อดอกไม้ต่างๆตามสมัยนิยมและมีความสวยงามไม่แพ้ขนมชนิดอื่นเลย
—————————————-






๓. ขนมจ่ามงกุฎ (ดาราทอง หรือ ทองเอกกระจัง)

ขนมจ่ามงกุฏ ไทยแท้ดั้งเดิม สมัย ร.๒ 
ขนม”ดาราทอง” หรือ “ทองเอกกระจัง” หรือ “จ่ามงกุฏ” ในปัจจุบัน ฐานกลีบจะไม่มีรอยหยัก
“จ่ามงกุฏ” จัดเป็นขนมในราชสำนัก ใช้สำหรับเครื่องเสวยถวายพระเจ้าแผ่นดินในอดีต มีมาตั้งแต่ร.๒ มีความหมายที่ดี หมายถึงหัวหน้าผู้เป็นใหญ่ จึงนิยมมอบให้กับผู้ที่ได้รับการยกย่องอย่างสูง เนื่องจากมีวิธีทำที่ค่อนข้างยาก ประณีตและต้องอาศัยศิลปะในการทำสูงกว่าขนมชนิดอื่น แต่เดิมสูตรไทยโบราณจะไม่มีส่วนผสมของไข่ มีเพียงแป้ง กะทิและน้ำตาล ปัจจุบันหาทานได้ยากมาก จะมีขายเพียงรุ่นที่สืบทอดกันมา (ย่านตลาดน้ำอัมพวา) รูปลักษณ์จะเป็นสีเขียว มีโรยแป้งทอด
ต่อมาได้รับวัฒนธรรมตะวันตก ประกวดในงานฉลองปีใหม่ในสมัยจอมพล แปลก พิบูลสงคราม คนทั่วไปรู้จักในชื่อว่า “ดาราทอง” หรือ “ทองเอกกระจัง” (ตัวขนมใช้สูตรเดียวกับขนมทองเอก) ขนมชนิดนี้มีส่วนผสมของไข่และเมล็ดแตงโม รวมถึงแผ่นทองคำเปลวประดับตกแต่งเข้ามา คล้ายเครื่องราชอิสริยาภรณ์ที่เป็นรูปดาว ดังรูปลักษณ์คล้ายมงกุฏสีทองดั่งที่เราเห็นในปัจจุบันนั้น มีความคล้ายคลึงกับมงกุฏของฝรั่ง ทำให้รู้จักกันในนามของขนม “จ่ามงกุฏ” ค่อนข้างมากกว่าดาราทอง หรือ ทองเอกกระจัง หรือเรียกได้ว่าเป็นจ่ามงกุฏยุคปัจจุบันนั่นเอง

ขนมมงกุฏเพชร ตรงฐานจะมีหยัก ไม่เรียบ สีสันน่าทานมาก 
ขนม”มงกุฏเพชร” กลีบฐานจะเป็นหยักไม่เรียบ
ซึ่งอย่าเข้าใจผิดว่าเป็นชนิดเดียวกับ “มงกุฏเพชร” นะจ๊ะกลีบฐานจะเป็นหยักไม่เรียบคล้ายกับขนมจ่ามงกุฏหรือดาราทองในปัจจุบันนั่นเอง
—————————————-




๔. ขนมไทย: ทอง ๙ มงคล

ขนมทองเก้ามงคล 
ทองหยิบ ทองหยอด หนึ่งในขนมทองเก้ามงคล 
ฝอยทอง 
ทองหยอด 
ขนมทองเอก 
ขนมทองเอก 
บรรจงแตะทองคำเปลวลงบนขนม
ขนมไทยมงคลตระกูลทอง หรือขนมทอง ๙ มงคล จะประกอบไปด้วย
๑.ทองหยิบ ๒.ทองหยอด ๓.ทองพลุ
๔.ทองเอก ๕.ทองนพคุณ ๖.ทองชมพูนุช
๗.ทองม้วน ๘.ทองทัต ๙.ทองอัฐ
เหมาะสำหรับจัดเป็นกระเช้าอวยพรปีใหม่ หรือใช้ในเทศกาลงานมงคลต่างๆ ซึ่งขนมทองมงคลแต่ละชนิดนั้น จะมีความหมายแตกต่างกันไป เช่น ทองหยิบ – หยิบจับอะไรก็จะเป็นทอง, ทองหยอด – หยอดเก็บเงินทองก็จะกองเต็มบ้าน, ทองพลุ- เจริญรุ่งเรือง รุ่งโรจน์ หรือทองชมพูนุช หมายถึง เสน่ห่า และเป็นที่รัก ซึ่งเป็นขนมไทยที่รูปทรงงดงามตามแบบศิลปะไทย ความหมายก็มีความเป็นสิริมงคลมากๆ
—————————————-







๑.ทองหยิบ ๒.ทองหยอด ๓.ทองพลุ
๔.ทองเอก ๕.ทองนพคุณ ๖.ทองชมพูนุช
๗.ทองม้วน ๘.ทองทัต ๙.ทองอัฐ
๕. ขนมเสน่ห์จันทร์

ขนมเสน่ห์จันทร์ 
เห็นสวยงามแบบนี้ ทานได้จริงๆนะ
ความหมายของขนมชนิดนี้นั้น จะทำให้เป็นคนมีเสน่ห์ มีแต่คนนิยมรักใคร่ รูปทรงคล้ายผลของลูกจันทน์ ซึ่งก็มีส่วนผสมของผงลูกจันทน์อยู่ในแป้งขนมด้วยนั่นเอง รสชาติของขนมจะหวานแต่จะไม่มาก หอมละมุนคล้ายกลิ่นผลจันทน์ผสมกับกลิ่นอบควันเทียน และมีความนุ่มๆ
—————————————-


๖. ขนมวุ้นลูกชุบ

วุ้นลูกชุบ 
วุ้นลูกชุบรูปเป็ดน้อย 
วุ้นลูกชุบ ทั้งน่าทาน ทั้งน่ารัก 
ต้นพริกลูกชุบ 
ต้นส้มลูกชุบ 
วุ้นลูกชุบ 
วุ้นลูกชุบ
วุ้นลูกชุบมาจากขนม ๒ ชนิดซึ่งก็ได้แก่ วุ้นและลูกชุบ ซึ่งการประดิษฐ์ประดอยเปลี่ยนไปตามสมัยนิยมทำให้มีความสวยงามมากยิ่งขึ้น บางเจ้าถึงกับนำมาดัดแปลงแทนเค้กฝรั่ง จัดเรียงวุ้นเป็นชั้นสีแล้วประดับลูกชุบ หรือตกแต่งเสิร์ฟเป็นถ้วยเล็กๆคล้ายคอกเทลก็น่ารักไปอีกแบบและสามารถนำมาจัดเลี้ยงเป็นของว่างทานคู่กับชาร้อนได้อีกด้วยคะ ปัจจุบันจะเห็นการออกไอเดียต่างๆ เช่น นำลูกชุบมาจัดช่อเป็นต้นไม้, หรือการดัดแปลงเป็นวุ้นเป็ดยอดฮิตในสมัยนี้ แต่จะเป็นแบบไหนนั้นรสชาติก็อร่อยไม่แพ้กันเลย
—————————————-





๗. ขนมกลีบลำดวน

กลีบลำดวน 
กลีบลำดวน 
กลีบลำดวน
ขนมกลีบลำดวน เป็นขนมไทยอีกชนิดหนึ่งที่มีความเป็นเอกลักษณ์ของตัวเอง กล่าวคือรูปทรงที่คล้ายกับกลีบของดอกลำดวน ที่สำคัญรสชาติที่หวานหอมเทียนอบเป็นอย่างมาก จึงถูกปากคนทุกยุคสมัย โดยคนโบราณมีความเชื่อว่าดอกลำดวนเป็นดอกไม้ที่มีเสน่ห์ยามค่ำคืน จะส่งกลิ่นหอมรัญจวนใจเฉพาะตัวเปรียบกับความหมายของขนมกลีบลำดวน ที่ช่วยทำให้มีชื่อเสียงขจรขจายและยังมีสร้างความงดงามให้กับคู่ชีวิต จึงนิยมใช้ในงานมงคล
—————————————-



๘. ขนมกระเช้าสีดา

กระเช้าสีดาสีสันตัดกันน่าทาน 
กระเช้าสีดา
ชื่อขนมชนิดนี้มีที่มาจากต้นกระเช้าสีดาในวรรณคดีรามเกียรติ์ มีลักษณะโดดเด่นเฉพาะตัว โดยตัวขนมจะทำมาจากแป้งสวยงามรูปทรงคล้ายกับกระเช้า และส่วนที่เป็นไส้ขนม กระเช้าสีดาเป็นขนมที่หารับประทานได้ค่อนข้างยาก เนื่องจากต้องใช้ความประณีตและละเอียดอ่อนในการทำขนม หากคนทำไม่มีฝืมือจริงๆกระเช้าอาจจะเบี้ยวไม่สวยงามได้ว่าแล้วก็ต้องหามาลองทานสักหน่อย
—————————————-


๙. ขนมสัมปันนี

ขนมสัมปันนีหลากสี 
ความลงตัวของขนมและสี 
ขนมสัมปันนี 
ขนมสัมปันนี
ขนมชนิดนี้มีการบันทึกว่ามาจากท้าวทองกีบม้า หรือท่านผู้หญิงของฟอลคอน ในปี ๒๖๖๒ เวลานั้นท่านได้รับเกียรติเป็นต้นห้องเครื่องหวานของพระเจ้าแผ่นดิน และสอนชาวสยามจึงได้รับอิทธิพลมาจากโปรตุเกส มีประวัติมาช้านานตั้งแต่รัชสมัยของพระนารายณ์ รูปร่างคล้ายดอกไม้มีสีสันสวยงาม ปัจจุบันมีสัมปันนี ๒ สูตรคือสูตรกรอบอร่อย และสูตรนุ่มละมุนลิ้นแบบไม่ต้องอบ
—————————————-




๑๐. ขนมน้ำดอกไม้

ขนมน้ำดอกไม้
ขนมน้ำดอกไม้นั้นมีชื่อเรื่องอีกอย่างว่าขนมชักหน้า ขนมชนิดนี้จะหวานหอมน้ำลอยดอกมะลิ บอกเลยว่าจะต้องหลงเสน่ห์ขนมไทยอย่างแน่นอน สีสันสดใสน่าตาน่าทานหวานฉ่ำรับทุกเทศกาล เนื้อสัมผัสจะหนุบหนับ เหนียวนุ่ม รสชาติหวานกำลังดี
—————————————-

๑๑. ช่อม่วงอัญชัน

สีม่วงมาจากดอกอัญชัญ 
สีสันตัดกัน 
ช่อม่วงอัญชัญ 
ช่อม่วงอัญชัญ
ขนมไทยโบราณที่มีความประณีตอ่อนช้อยแบบฉบับชาววัง ด้านนอกเป็นแป้งมีสีม่วงจากดอกอัญชัญตกแต่งจัดช่อสวยงามเฉกเช่นดอกไม้จึงเรียกว่าช่อม่วง ด้านในมีทั้งไส้ที่ทำจากหมูและกุ้ง หรือปลา,ไก่ได้ตามใจชอบ ซึ่งหารับประทานได้ค่อนข้างยากแล้ว
—————————————-




๑๒. ขนมลืมกลืน

ขนมลืมกลืน 
อร่อยจนลืมกลืนเลย
มาถึงขนมชนิดสุดท้ายกันแล้วนะคะ กับขนมลืมกลืน เป็นขนมที่ทำมาจากแป้งถั่วเขียวหรือแป้งสลิ่ม ผสมน้ำลอยดอกไม้และน้ำตาล จากนั้นนำไปกวนจนใส หยอดหน้าด้วยกะทิ ทำให้ได้รสชาติที่หวานหอม มันๆเค็มๆ เข้ากันได้เป็นอย่างดี


ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น